
กำไรที่สวยงามมักจะมาพร้อมกับกลยุทธ์ที่ดี นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จล้วนแล้วแต่มีกลยุทธ์ (Strategy) การเทรดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งต้องผ่านการพัฒนา ปรับปรุงและแก้ไขมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน เพื่อให้ได้กลยุทธ์ที่ใช้ทำกำไรในตลาดและมีความเข้ากับจริตของนักเทรดด้วย
•ขั้นตอนที่ 1 : พัฒนากลยุทธ์การเทรด
ขั้นตอนแรกในการเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพคือการสร้างกลยุทธ์การเทรด กลยุทธ์นี้จะส่งผลต่อทุกการตัดสินใจในการเทรดของคุณ
โดยกลยุทธ์ที่ดีจะต้องสะท้อนถึงเป้าหมายที่คุณตั้งไว้และตรงกับวิธีการเทรดที่คุณใช้ เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายเหล่านั้นได้ การพูดเพียงอย่างเดียวอาจจะฟังดูง่าย เพราะในทางปฏิบัติย่อมมีปัจจัยหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องคำนึงถึง แต่กลยุทธ์ในการเทรดที่ดีควรมี 2 ประเด็นหลัก ๆ นี้อยู่ในกลยุทธ์ด้วย ซึ่งก็คือ
1.ความได้เปรียบในระยะยาว
แน่นอนว่าคุณอาจเทรดชนะ ทำกำไรได้ สองสามครั้งและมีความสุขกับความสำเร็จของคุณ แต่นั่นอาจไม่ได้ทำให้คุณเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพ เพราะมืออาชีพตัวจริงจะต้องสามารถสร้างความสำเร็จซ้ำ ๆ ได้อย่างสม่ำเสมอและยั่งยืน
2.บริหารจัดการความเสี่ยง
วิธีการทำกำไรจากการเทรดคือการสร้างกำไรขึ้นมาจากเงินที่มีอยู่ในบัญชีของคุณ หากคุณไม่ปกป้องผลกำไรหรือต้นทุนเหล่านั้นเอาไว้ ก็อาจจะทำให้คุณพลาดท่าหมดตัวให้กับตลาดได้ในครั้งเดียว (เทรดชนะ 10 ครั้ง แต่เทรดแพ้ครั้งเดียว ซึ่งครั้งนั้นก็อาจทำให้เสียกำไรทั้งหมด + ต้นทุนได้)
•ขั้นตอนที่ 2 : ทดสอบกลยุทธ์
หลังจากที่ได้สร้างกลยุทธ์แล้ว ขั้นต่อไปคือการนำกลยุทธ์ไปทดสอบในตลาด การทดสอบเป็นวิธีเดียวที่จะทราบได้อย่างแน่นอนว่ากลยุทธ์ของคุณมีความได้เปรียบในสภาวะตลาดและใช้ได้จริงหรือไม่
ตัวอย่างเช่น หากกลยุทธ์การเทรดใช้จุด Breakouts เป็นเงื่อนไขในการเปิด position, คุณต้อง proof ได้ว่ามันใช้ได้ผลจริง และวิธีที่ดีที่สุดในการพิสูจน์ว่าระบบของคุณมีความได้เปรียบคือการทดสอบย้อนกลับโดยการใช้ข้อมูลตลาดในอดีต
•ขั้นตอนที่ 3 : เชื่อมั่นในกลยุทธ์
เมื่อคุณได้ทุ่มเททำงานหนักเพื่อวางแผนกลยุทธ์และรูปแบบการเทรดของคุณแล้ว คุณต้องเรียนรู้ที่จะไว้วางใจในสิ่งที่คุณคิด
ซึ่งหมายความว่าคุณควรปฏิบัติตามกลยุทธ์ เป็นระยะเวลาหนึ่งก่อนที่จะตัดสินใจเปลี่ยนแปลงใด ๆ เพราะควรให้ระยะเวลากลยุทธ์ได้ทำงาน
โดยนี่มักจะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ เพราะหลายคนอาจมีกลยุทธ์ที่ตั้งเอาไว้ แต่มักไม่สามารถทำตามได้ตามแผนที่วางไว้ เนื่องจากเมื่อเกิดการขาดทุนเพียงเล็กน้อย ก็อาจส่งผลต่ออารมณ์ และความคิด ทำให้เกิดการโต้ตอบตลาด โดยไม่ได้อิงจากแผนการเทรดหรือกลยุทธ์ที่วางไว้
แต่อย่าลืมว่าการเป็นมืออาชีพเป็นเป้าหมายระยะยาว ดังนั้นคุณต้องให้เวลากับสิ่งต่าง ๆ ได้ดำเนินการ
หากระดับความเสี่ยงอยู่ในระดับที่รับได้ตามที่วางแผนไว้ในกลยุทธ์ คุณควรจะสามารถจัดการกับการขาดทุนเพียงเล็กน้อยได้ หากนั้นสามารถสร้างผลกำไรในระยะยาวได้เพิ่มขึ้น
และแน่นอนว่า หากคุณยังคงขาดทุนอย่างต่อเนื่องโดยไม่ได้สร้างกำไรใด ๆ ก็อาจจะต้องเริ่มคิดปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การเทรดเดิม
•ขั้นตอนที่ 4 : การมีระเบียบวินัยอยู่เสมอ
เมื่อมีความเชื่อใจในกลยุทธ์ของคุณแล้ว คุณต้องรักษาความสม่ำเสมอในการเทรดบนกลยุทธ์นั้น
ซึ่งหมายความว่าแทนที่จะมุ่งเน้นไปที่การทำเงินจำนวนหนึ่งในแต่ละวัน คุณควรมุ่งเน้นไปที่การเทรดตามกลยุทธ์ของคุณในแต่ละวัน
ท้ายที่สุดนี่คือแผนของคุณ การวิเคราะห์ของคุณ ว่านี่คือวิธีที่จะบรรลุเป้าหมายของคุณ ทุกคนสามารถสร้างกำไรจากการเทรดได้ด้วยความโชคดีไม่กี่ครั้ง แต่เทรดเดอร์มืออาชีพมักจะรู้วิธีอยู่ในเกมระยะยาว
•ขั้นตอนที่ 5 : เรียนรู้ต่อไป!
นักเทรดและนักลงทุนที่ดีมักจะเรียนรู้และพัฒนาความสามารถในการเทรดอย่างต่อเนื่อง เพราะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา รวมถึงการเปลี่ยนแปลงระบบเทคโนโลยีใหม่ ๆ
ส่วนหนึ่งของความสำเร็จระยะยาวของเทรดเดอร์คือการสะสมความรู้และประสบการณ์ใหม่ ๆ และนำไปใช้กับการเทรดของคุณ
วอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนชื่อดัง เคยพูดแนะนำเทรดเดอร์มือใหม่ว่า ควรอ่านให้ได้อย่างน้อย 500 หน้าต่อวัน ซึ่งนี่อาจจะดูสุดโต่งไปสักหน่อย แต่การนำมาซึ่งความสำเร็จในระยะยาว ล้วนต้องเกิดจากการเรียนรู้ตลอดเวลา
บทสรุป
ไม่มีวิธีไหนจะรับประกันได้ว่า จะทำให้ประสบความสำเร็จในการเทรด แต่การปฏิบัติตามขั้นตอนข้างต้น ก็จะสามารถช่วยปรับปรุงโอกาสในการทำกำไรในตลาดได้
“ความเชี่ยวชาญที่แท้จริงของกิจกรรมใด ๆ เกิดขึ้นได้จากการใช้กระบวนการ เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง”