🔎 [INVESTMENT] – ลงทุนหุ้นต่างประเทศไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป !

สำหรับหลายคนที่ติดตาม Trader KP มานาน จะทราบว่าเพจเราจะเน้นถึงการวิเคราะห์หุ้นและสถานการณ์ในตลาดต่างประเทศเป็นหลัก เพราะทาง Trader KP เชื่อมั่นและลงทุนในหุ้นต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ของพอร์ต
💹 เหตุผลหลักๆ ที่เรามั่นใจในการลงทุนหุ้นต่างประเทศก็เพราะกลุ่มหุ้นที่มี Growth สูงๆ มักจะอยู่นอกประเทศทั้งนั้น ไม่ว่าจะหุ้น Technology หรือนวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งโดยส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในอเมริกาที่เราคุ้นเคยกันดีและมีให้เลือกมากมาย แม้กระทั่ง ‘Big Five’ Tech companies ของโลกอย่างกลุ่ม FAANG (Facebook, Amazon, Apple, Netflix, Google) ก็มาจากสหรัฐอเมริกาทั้งหมด
💡 อีกทั้งทางเพจเรายังคอยติดตามและนำความเคลื่อนไหวในตลาดต่างประเทศมาอัพเดทให้นักลงทุนทุกท่านอย่างใกล้ชิด จนทำให้การลงทุนในต่างประเทศนั้นไม่ได้เป็นเรื่องที่ห่างไกลจากตัวเลย ถ้าศึกษาบริษัทดี ๆ และหาจังหวะที่เหมาะสม นักลงทุนก็สามารถกอบโกยผลกำไรได้มากมายอย่างเช่น
- หุ้น Microsoft ที่เติบโตถึง 210 เท่า !! ภายใน 30 ปี (ข้อมูล ณ ปี 2020) ปัจจุบันมีมูลค่าตลาด 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ,
- หุ้น Apple เติบโตถึง 43 เท่า !! ภายใน 12 ปี (ข้อมูล ณ ปี 2020) ปัจจุบันมีมูลค่าตลาด 2.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เป็นต้น
นอกจากหุ้นเทคโนโลยีแล้ว ยังมีหุ้นสหรัฐฯ อื่น ๆ ที่น่าสนใจและคนทั่วโลกก็คุ้นเคยกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทเหล่านี้ดี อย่างเช่น Disney, Nike, Starbucks หรือหุ้นบริษัทยาอย่าง Pfizer

📌 แต่ต้องบอกว่าในอดีต การลงทุนในหุ้นต่างประเทศโดยตรงไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างตัว Trader KP เริ่มจากเปิดบัญชีที่ต่างประเทศ พอย้ายกลับมาไทย การเทรดหุ้นนอกก็ไม่สะดวกอย่างเคย:
❌ ต้องตื่นมาแลกเงินเป็น USD แต่เช้าเพื่อใช้เทรดกลางคืน
❌ ค่าธรรมเนียมแพง
❌ ซื้อขายหุ้นได้ตอนตลาดอเมริการเปิดเท่านั้น
❌ หุ้นบริษัทใหญ่ ๆ ระดับโลกมีราคาต่อหุ้นที่ค่อนข้างสูง
❌ นอกจากนี้หลายๆคนอาจพบอุปสรรคในการหาข่าวหรือข้อมูลเชิงลึกของบริษัทต่างประเทศ ทำให้ยังไม่กล้าพอที่จะปั้นพอร์ตต่างประเทศและยังวนเวียนอยู่กับหุ้นไทย
แต่…..ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้วครับในยุคนี้ อุปสรรคที่พูดมาข้างต้น แทบไม่มีอีกแล้วครับ
✅ สามารถซื้อหุ้นต่างประเทศได้ด้วยเงินบาทเลย ไม่จำเป็นต้องแลกเงินเป็น USD
✅ ไม่มีค่าคอมมิชชันขั้นต่ำ ไม่เสียค่าใช้จ่ายยื่นแบบภาษี W-8BEN (W-8BEN คือแบบฟอร์มภาษีของสหรัฐฯ ใช้โดยชาวต่างชาติหรือธุรกิจต่างชาติที่ไม่ใช่ประชากรสหรัฐฯในการส่งข้อมูลภาษีหัก ณ ที่จ่ายให้กับ IRS หรือ หน่วยงานด้านภาษีของสหรัฐฯ)
✅ สามารถซื้อและขายนอกเวลาตลาดได้
สามารถเป็นเจ้าของหุ้นใหญ่ ๆ ระดับโลกได้ด้วยทุนเริ่มต้นเพียง 50 บาท !
✅ มีช่องทางให้ติดตามข้อมูลข่าวสารต่างประเทศมากมาย
📌 แล้วเราจะเริ่มลงทุนหุ้นต่างประเทศอย่างไร ?
อยากเริ่มต้นลงทุนหุ้นต่างประเทศไม่ยากเลยครับ
✅ หาช่องทางการรับข้อมูลข่าวสารที่เชื่อถือได้
✅ ศึกษาบริษัทและงบการเงิน (ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์บริษัท)
✅ ติดตามราคาหุ้นและบทวิเคราะห์ จากแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ
✅ เลือกใช้โบรกเกอร์และแพลตฟอร์มการลงทุนที่ดี

ซึ่งต้องบอกว่าการเลือกโบรกเกอร์ นับเป็นส่วนสำคัญในการจะเริ่มลงทุน ซึ่งเราอยากจะขยายความปัจจัยสำคัญในการเลือกโบรกเกอร์ที่จะทำการเทรดหุ้นนอก ดังนี้
1️⃣ความน่าเชื่อถือ ต้องน่าเชื่อถือ มีประวัติความเป็นมาชัดเจน ตรวจสอบได้และได้รับการรับรองจาก กลต. มีช่องทางให้นักลงทุนติดต่อ ดูประสบการณ์การทำงานของผู้บริหาร หรือดูทีมนักวิเคราะห์ที่มีประสบการณ์
2️⃣ความง่ายในการใช้งาน แพลตฟอร์มการลงทุนควรมีการใช้งานที่สะดวก ไม่มีการทำงานที่ซับซ้อนเกินไป เพราะอาจจะทำให้ บางทีเกิดการซื้อขายที่ผิดพลาด หรือสร้างความยุ่งยากให้กับนักลงทุนมากกว่าอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุน
3️⃣การให้ข้อมูลสำคัญรวมถึงข้อมูลประกอบการลงทุนให้ลูกค้าอย่างเพียงพอ การบริการหลังการขายก็เป็นสิ่งสำคัญ ดูระบบการฝากถอน การดำเนินการด้านเอกสารต่าง ๆ ว่าอำนวยความสะดวกกับเรามากแค่ไหน
4️⃣การคิดค่าธรรมเนียมต้องเป็นธรรม โบรกเกอร์จะมีการเก็บค่าธรรมเนียมในรายละเอียดที่แตกต่างกัน นักลงทุนควรตรวจสอบดูว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง เก็บเป็นเปอร์เซ็นต์ หรือเก็บขั้นต่ำ และเลือกให้ถูกกับจริตการลงทุนของเรา

📌 แนะนำ แอปเทรดหุ้นนอก Dime! (ไดม์)
ทาง Trader KP มีโอกาสได้ลองใช้ แอป Dime! (ไดม์) ในการซื้อหุ้นต่างประเทศแล้วก็พบว่ามันตอบโจทย์หลายอย่างจริง ๆ จึงอยากแนะนำแอป Dime! ให้นักลงทุนได้รู้จักและลองใช้กันดูครับ สำหรับความชอบส่วนตัวคือ
ปกติ Trader KP จะลงทุนในหุ้นบริษัทใหญ่ ๆ ยกตัวอย่างเช่น Tesla ซึ่งมีมูลค่าหุ้น ประมาณ 300 USD ต่อหุ้น หรือ ประมาณ 1 หมื่นบาทไทย จะซื้อทีก็ต้องลงเป็นหน่วยหุ้น จะมาลงร้อยสองร้อยบาทมันไม่ได้!!!!!!
แต่แอป Dime! เขามาตอบโจทย์นักลงทุนที่อยากลองลงทุนหุ้นต่างประเทศ หรือลงตัวใหม่ ๆ ด้วยงบเพียง 50 บาทก็สามารถเป็นเจ้าของหุ้นระดับโลกได้เลยครับ ที่สำคัญสามารถแลกเงินเวลาไหนก็ได้และซื้อทั้งในหรือนอกเวลาตลาดได้เลย
💡 สรุปความน่าสนใจในสิทธิประโยชน์ที่นักลงทุนจะได้จากการเปิดบัญชีกับ Dime! (ไดม์)
😁 ออมเงินในบัญชีออมทรัพย์ Dime! Save รับดอกเบี้ยสูงสุด 3% ต่อปี * เงื่อนไขตามที่ธนาคารเกียรตินาคินภัทรกำหนด
😁 เราสามารถลงทุนหุ้นระดับโลกเริ่มต้นด้วยเงินเพียง 50 บาท!!!
😁 ลงทุนได้เลยด้วยเงินบาท
😁 เก็บค่าธรรมเนียมตามจริง ไม่มีค่าคอมมิชชันขั้นต่ำ ไม่มีค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายอื่นแอบแฝง (เช่น ค่าธรรมเนียมการโอนเงินเข้าออก) ไม่เสียค่าใช้จ่ายยื่นแบบภาษีของสหรัฐฯ (W-8BEN)
😁 ซื้อขายหุ้นต่างประเทศได้ ทั้งในและนอกเวลาทำการของตลาด

✨ “พิเศษ! เปิดบัญชีลงทุนภายในปี 2565 ฟรีค่าคอมมิชชันทุกรายการซื้อขายถึง 30 มิ.ย. 2566
✨ นอกจากหุ้นต่างประเทศแล้ว เรายังได้ทดลองใช้การซื้อขายกองทุนรวม ผ่าน Dime! (ไดม์) โดยนักลงทุนสามารถซื้อ กองทุนรวม เพื่อกระจายการลงทุน ไปกับ Dime! (ไดม์) โดยมีถึง 1,700 กองทุน จาก 21 บลจ.* ดัง (*ภายในปี 65) และมี Dime! Fast รับเงินค่าขายกองทุนรวมก่อนใคร Dime! ยังมีการแนะนำธีมการลงทุนให้กับนักลงทุน ผ่าน “กองทุนรวมจัดให้”
✨ นอกจากนี้ ใครที่ชอบลงทุนไว้หลาย ๆ ที่ แอป ‘Dime!’ ก็มีฟังก์ชันเด็ด คือ ‘Asset Tracker’ที่ให้เราสามารถบันทึกการลงทุน พร้อมดูภาพรวมแบบง่าย ๆ แบบเรียลไทม์ได้เลย เรียกว่า ครบ จบ ที่เดียว ต้องบอกเลยว่า “ไม่เจ็บ แต่อยากจำ ทดลองลงทุนผ่าน Dime!”
💡 สรุปโปรโมชันที่ Dime! จัดให้
1️⃣ต่อแรก
เปิดบัญชีกับ Dime! วันนี้ – 31 ธันวาคม 65 ไม่มีค่าคอมมิชชันทุกรายการซื้อขายถึง 30 มิถุนายน 66
2️⃣ต่อที่สอง
ทำภารกิจ !! ซื้อหุ้นสหรัฐฯ หรือกองทุนรวมบนแอปเพื่อรับหุ้นสหรัฐฯ ในดวงใจ สูงถึง 200 บาท
กติกา
ซื้อหุ้นสหรัฐฯ ครบ 3 ครั้ง รับหุ้นมูลค่า 100 บาท
ซื้อกองทุนรวมครบทุก ๆ 25,000 บาท รับหุ้นมูลค่า 50 บาท/ครั้ง (สูงสุดไม่เกิน 2 ครั้ง)
รางวัลที่ Dime! จะให้ เรียกว่า Dime! Lucky ซึ่งจะให้ผู้ที่ได้รับรางวัลขูด เพื่อลุ้นว่าจะได้หุ้นสหรัฐอเมริกาตัวใด
Download ได้เลย คลิก https://bit.ly/3RTOzZ5