LVMH กำไรโต 21% สวนทางสภาพเศรษฐกิจ!

⁉รู้ไหมครับ กระเป๋าในฝันของสาวๆอย่าง Louis Viutton หรือ Dior แชมเปญเก่าแก่ระดับสูงอย่าง ดงเปรีญง (Dom Perignon) จิวเวอรี่แบรนด์ดังอย่าง Tiffany & Co. นาฬิกาแบรนด์ดังอย่าง TAG Heuer และ น้ำหอมสุดฮิตของ Guerlain มีอะไรที่เหมือนกัน?⁉

ใช่ครับ แบรนด์ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้บริษัทแม่ LVMH-MoetHennessy หรือ ทีเราเรียกกันสั้นๆ LVMH สัญชาติฝรั่งเศษนั่นเอง

ซึ่งเมื่อเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยแบบนี้ ความเชื่อที่ว่าคนก็น่าจะซื้อสินค้าลักชัวรี่แบรนด์น้อยลง และรายได้ของ แบรนด์เหล่านี้ก็ไม่น่าเติบโตในปีที่ผ่านมา กลับใช้ไม่ได้กับ LVMH เพราะผลประกอบการล่าสุด กลับกลายเป็นว่าบริษัทมีรายได้ที่เติบโตถึง 21% (YOY , Fiscal first half 2022) และมีรายได้ครึ่งปีแรกของ 2022 รวม 36.7 พันล้านยูโร หรือ ประมาณ1.4 ล้านล้านบาท ในขณะที่กำไรจากการดำเนินงานเติบโตถึง 34% (YOY , Fiscal first half 2022)

📌กลยุทธ์สำคัญของ LVMH คือ การกระจายพอร์ตผลิตภัณฑ์ ( Diversification) ตั้งแต่ low ถึง High-end brand และ มีถึง 5 กลุ่มผลิตภัณฑ์ รวมมากกว่า 60 แบรนด์ หรือที่เรียกว่า ‘House’

กลุ่มที่1. Wines & Spirit ( 26 houses)

กลุ่มที่ 2 สินค้าแฟชันและเครื่องหนัง (14 houses)

กลุ่มที่ 3 นาฬิกาและจิวเวลรี่ (8 houses)

กลุ่มที่ 4 น้ำหอมและเครื่องสำอางค์ (15 houses)

กลุ่มที่ 5 ร้านค้าปลีก ( 5 houses) เช่น Sephora

โดยปีที่ผ่านมา รายได้ของทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์เติบโตทั้งหมด ซึ่งการเติบโตหลักๆเกิดจาก

✅ ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งขึ้นทำให้ความต้องการในตลาด US สูงขึ้น

✅ และถึงแม้ 40% ของรายได้จะมาจากตลาด Asia Pacific โดยเฉพาะประเทศจีน แต่เนื่องด้วย LVMH มี แบรนด์ที่หลากหลายตั้งแต่สูงไปต่ำ และแบ่งย่อยไปหลาย Tier มากๆ ผู้บริโภคจึงสามารถเลือกซื้อและลดระดับสินค้าลง 1-2 ระดับในช่วง Recession ยกตัวอย่างเช่นผู้ที่ปกติซื้อแชมเปญดงเปรีญงที่เป็นระดับสูงสุดของโรงแชมเปญชือดังโมแอเตช็องดง (Moet & Chandon) ก็อาจจะลดระดับลงมาซื้อ เวอฟคลีโคต์ (Veuve Clicquot) แทน ซึ่งมีราคาต่ำกว่าครึ่งแต่คุณภาพทัดเทียม

📌โดยสรุปรายได้ที่สูงขึ้นของ LVMH ในปีที่ผ่านมา คือ

1️⃣ การกระจายสินค้าในหลายระดับ และหลาย Brand รวมถึงภูมิภาค

2️⃣ ความต้องการซื้อของบริโภคสูงหลังเปิดเมือง

3️⃣ ความแข็งแรงของฐานะทางการเงิน ทำให้สามารถลงทุนด้านการขายและการตลาดอย่างต่อเนื่อง

นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้แบรนด์ LVMH มีภูมิคุ้มกันต่อวิกฤติเศรษฐกิจและการลงทุนในบริษัทนี้ก็น่าสนใจไม่น้อย

📌เนื่องจาก LVMH ยังไม่ได้ลิสต์อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ใหญ่ๆอย่าง NYSE หรือ Nasdaq แต่เราก็สามารถลงทุนผ่าน ETF ได้ โดยสามารถทำผ่านแอป InnovestX โดย ETF ที่มีการลงทุนใน LVMH มีดังนี้

• VICE.US ถือ LVMUY (ADR ของ LMVMH) 2.9% ของพอร์ต

Fund Size $8.2mb ( as-of 26 Oct 2022)

• WINN.US ถือ LVMUY (ADR ของ LMVMH) 1.8% ของพอร์ต

Fund Size : $80mb ( as-of 26 Oct 2022)

• EZU.US ถือ LVMH 4.35% ของพอร์ต

Fund Size $4,982mb ( as-of 26 Oct 2022)

• VGK.US ถือ LVMH 1.69% ของพอร์ต

Fund Size $16.7bn ( as-of 26 Oct 2022)

• EWQ.US ถือ LVMH 11.74% ของพอร์ต

Fund Size $858 mb ( as-of 26 Oct 2022)

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรา ฝากกด Like และ Share เพื่อให้นักลงทุนท่านอื่นได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์เหล่านี้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ 🙏☺️

และอย่าลืมนะครับว่า ***ทุกการลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน***