ในช่วงนี้ที่ตลาด US เริ่มกลับมาบวก โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรม AI และ Tech นักลงทุนไทยหลายคนอยากเริ่มลงทุนหุ้นอเมริกา แต่กังวลเรื่องค่าธรรมเนียม และความยุ่งยากในการเปิดบัญชี
ทีม Trader KP เองก็เป็นหนึ่งในนักลงทุนที่เริ่มต้นจากการเปิดบัญชีที่ต่างประเทศมาก่อน แต่ในช่วง 2 ปีมานี้ เราได้เริ่มเปิดบัญชีกับหลักทรัพย์ไทยหลายเจ้า และก็ค้นพบว่า มันง่ายและสะดวกขึ้นมาก และค่าธรรมเนียมก็ไม่แพงเหมือนเมื่อก่อน แถมมีแพลตฟอร์มให้เลือกมากมาย
เราเลยรวบรวมหลักทรัพย์และค่าธรรมเนียมมาให้เพื่อนๆที่กำลังตัดสินใจว่าจะเปิดบัญชีที่ไหนดี
📌ค่าธรรมเนียมหลักๆ ในการเทรดหุ้น US กับโบรกเกอร์ไทย
1️⃣ ค่าธรรมเนียมโอนเงินออกต่างประเทศ : อันนี้ไม่ได้มีทุกที่ เนื่องจากอาจจะรวมอยู่ใน FX rate แล้ว 2️⃣ค่าคอมมิชชัน : ซึ่งจะแบ่งออกเป็น
ประเภทที่ 1 Fix rate หรือ อัตราคงที่ต่อหุ้น
ประเภทที่ 2 Variable rate หรือ % ของมูลค่าซื้อขาย
และโดยปกติ แต่ละเจ้าก็จะต้องมีค่าธรรมเนียมขั้นต่ำด้วย ดังนั้นก็ขึ้นอยู่กับจำนวนหุ้น หรือยอดมูลค่าซื้อขาย ว่าเยอะ น้อยเท่าไหร่ และเจ้าไหนถึงจะคุ้ม
หมายเหตุ: อัตราค่านายหน้าและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ณ เดือน มิถุนายน 2566 และอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแต่ละหลักทรัพย์ กรุณาเช็กกับหลักทรัพย์อีกครั้งก่อนเปิดบัญชี
…………………………………………
📌 หนึ่งในทางเลือกลงทุนหุ้น USA ที่ Trader KP ก็ใช้งานอยู่ คือ Innovestx เพราะเขามีฟีเจอร์เด็ด “Wealth Idea” #ตัวช่วยค้นหาไอเดียการลงทุน รวบรวมไว้ในที่เดียว และเป็นตัวช่วยที่จะทำให้โลกการลงทุนของคุณจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป!
ด้วยเพลย์ลิสต์การลงทุนที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น รวมลิสต์ปู่ Warren Buffet, รวมหุ้นติดดาว Morningstar, รวมหุ้นเทคโนโลยีตัวท๊อป
👉ทาง Trader KP เองก็มี Playlist ที่ร่วมทำกับ InnovestX ในชื่อ Future Tech โดยรวบรวมบริษัทระดับโลกที่มีศักยภาพในการสร้างนวัตกรรมเปลี่ยนโลก เช่น กลุ่ม AI อย่าง NVIDIA หรือ TSMC และ EV อย่าง TESLA
🔆 เริ่มค้นหาไอเดียการลงทุนได้แล้ววันนี้กับ InnovestX
📲 โหลดเลย คลิก https://innovestx.onelink.me/23if/invxntraderkplive
📌 รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก http://bit.ly/43qp1JR
คำเตือน ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน #WealthIdea #เพลย์ลิสต์ก
ทันโลกกับ Trader KP 