
JP Morgan เปิดเผยว่าในอนาคตอันใกล้ทั้งโลกจะได้เห็นการเสื่อมถอยของสกุลเงินดอลลาร์จากการลดการพึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์ (De-dollarization) บางส่วน แต่ทว่ากลับมาข้อสงสัยเต็มของตลาดว่า “หยวน” จะเข้ามาแทนที่ดอลลาร์ได้หรือไม่?
📌 ความขัดแย้งระหว่าง 2 ประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาและจีนกำลังทำให้โลกถูกแบ่งออกเป็น 2 ขั้ว ทำให้หลายประเทศต้องเลือกที่จะผูกมิตรทำการค้ากับจีนหรือเลือกที่จะอยู่กับสหรัฐฯ ต่อไป ทำให้นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่าสกุลเงินจะแบ่งออกเป็น 2 ขั้วเช่นเดียวกัน ได้แก่ หยวนและดอลลาร์
ที่ผ่านมาเงินดอลลาร์ถูกนำไปใช้จ่ายสินค้าและชำระเงินระหว่างประเทศ รวมทั้งเก็บไว้เป็นเงินทุนสำรอง แต่การที่สหรัฐฯ เลือกใช้กฎระเบียบและมาตรการอย่างเคร่งครัดกับประเทศคู่ขัดแย้ง เช่น การคว่ำบาตร เป็นต้น ทำให้หลายประเทศเริ่มที่จะปรับตัวและมองหาโอกาสใหม่ ๆ ที่จะพึ่งพาสหรัฐฯ ให้ลดน้อยลง
เป็นที่ทราบกันดีว่าการคว่ำบาตรรัสเซียและความพยายามในการตัดการเข้าถึงเทคโนโลยีของจีนในสหรัฐฯ เป็นการกระทำเพื่อตัดความเสี่ยงที่จะเกิดภัยคุกคามทางการเทคโนโลยีและเศรษฐกิจ
📉 ตามข้อมูลจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) แสดงให้เห็นว่าส่วนแบ่งเงินสำรองเงินตราต่างประเทศของดอลลาร์ลดลงจาก 73% ในปี 2001 เหลือเพียง 58% ในปี 2022 ในขณะที่ส่วนแบ่งของเงินหยวนเพิ่มขึ้นประมาณ 2.5%
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม Nouriel Roubini ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยนิวยอร์กและ CEO ของ Roubini Macro Associates เปิดเผยว่า
“ในอนาคตเราอาจจะไม่ได้เห็นเพียงระบบสกุลเงิน 2 ขั้วเท่านั้น แต่อาจเห็นระบบสกุลเงินหลายขั้วเพราะการมาของ Cryptocurrency ในปัจจุบัน ซึ่งคาดว่า CBDC ที่ออกโดยธนาคารกลางน่าจะเป็น 1 ตัวเลือกสำคัญที่จะเข้ามาล้มดอลลาร์”
🔎 ในรายการไลฟ์สดของทันโลกกับ Trader KP กับอาจารย์ตั๊ม พิริยะ ก็ได้ออกมาพูดแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับระบบสกุลเงิน 3 ขั้วเช่นเดียวกันว่า
“ผมมองเป็น 2 ขั้วมากกว่าคือระหว่าง Fiat กับ Community Currency เพราะท้ายที่สุดมันเป็นเพียงการเปลี่ยนหน้ากากของ Fiat แต่สุดท้ายแล้วก็ยังเป็น Fiat อยู่ดีแม้จะดูจากข้างนอกว่าสวยหรูแต่ข้างในก็เละเทะเหมือนกัน อีกทั้งเราจะเห็นว่าประเทศที่พยายามหนีออกจาก Fiat ก็มาพึ่ง Bitcoin มากขึ้นเช่นกัน”
💵 หากใครยังไม่ทราบ Community Currency หมายถึงโทเคน สคริปต์ที่จับต้องได้ หรือเป็นเพียงรายการทางบัญชีที่สามารถใช้แทนเงินโดยเป็นข้อตกลงระหว่างผู้รับและผู้จ่าย ซึ่ง Community Currency มักจะออกโดยองค์กรทั่วไป องค์กรไม่แสวงหากำไร หรือหน่วยงานเอกชน และในทีนี้อาจหมายถึง Digital Currency ด้วย
“เรามีต้นไม้ใหญ่ (จีนและสหรัฐฯ) ที่ปลวกกำลังกัดกินอยู่ข้างใน แต่ในขณะเดียวกันเราก็มี Bitcoin เป็นต้นอ่อนที่กำลังเติบโตแต่ก็พร้อมที่จะตายไปทุกเมื่อเหมือนกัน แต่สิ่งที่เราเห็นตอนนี้ก็คือความหวังของต้นอ่อนที่กำลังเติบโต จึงมองว่าโลกปัจจุบันกำลังบาลานซ์ระหว่าง Fiat กับ Bitcoin มากกว่า”
ท้ายที่สุด Stephen Jen นักเศรษฐศาสตร์และ CEO ของ Eurizon SLJ บริษัทด้านการลงทุนยักษ์ใหญ่สัญชาติอังกฤษคาดการณ์ว่าระบบสกุลเงิน 3 ขั้วอาจเกิดขึ้นในท้ายที่สุดโดยที่เงินดอลลาร์จะมีอิทธิพลมากที่สุด ควบคู่ไปกับอีกสองสกุลเงินรอง
“ถ้าผมต้องเดา มันควรจะเป็น ยูโร และหยวนที่มีสถานะใกล้เคียงกัน และผมมองการมีสกุลเงินสำรองแบบสามขั้วดูสมเหตุสมผล และสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันมากกว่า”
👉 อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ยังมองอีกด้วยว่าปัจจัยด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และอื่น ๆ เป็นไปไม่ได้ที่สหรัฐฯ จะเสียตำแหน่งมหาอำนาจอันดับ 1 ของโลกให้กับประเทศอื่น แต่เราต้องมาดูต่อไปว่าอีกสองสกุลเงินรองจะออกมาเป็น “หยวนและยูโร” อย่างที่หลายคนคาดไว้ หรือ “หยวนและ Bitcoin” กันแน่
…………………………………………..
📌 #ลงทุนหุ้นต่างประเทศ กับบริษัทหลักทรัพย์ CGS-CIMB ให้คุณลงทุนในหุ้นยักษ์ใหญ่ระดับโลก ที่จดทะเบียนในตลาน US และตลาดหุ้นแดนมังกร (A-Share) ผ่านระบบออนไลน์ได้แล้ววันนี้
ทำไมต้องเลือกลงทุนหุ้นจีนกับ CGS-CIMB
1. ความแข็งแกร่งของบริษัทแม่ China Galaxy International ซึ่งเป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ในประเทศจีน
2. บทวิเคราะห์ส่งตรงจากประเทศจีน และข้อมูลข่าวสารในรูปแบบภาษาไทย
3. สามารถซื้อขายหุ้นจีนออนไลน์แบบ real-time
4. เลือกแลกเปลี่ยนเป็นเงินหยวนได้โดยไม่มีขั้นต่ำ
📌 เริ่มต้นลงทุนในหุ้นแดนมังกรได้แล้ววันนี้ เพียงเปิดบัญชีซื้อขายผ่านออนไลน์ ได้ที่
https://requestonline.cimbsecurities.co.th/requestonlinv/OPENACCOUNT/?refer=KP
📌 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-841-9000 กด 1 และ 4
หรืออีเมล์ bk.cbt@cgs-cimb.com
#TraderKP #หุ้นจีน #เปิดพอร์ตหุ้นจีน #ตลาดหุ้นจีน #เทรดหุ้นจีน #หุ้นAshare
