เมื่อ “คาร์บอน” กลายเป็นตัวแปรใหม่ของการแข่งขันทางเศรษฐกิจโลก
SCG ผู้นำอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ของไทยและอาเซียน เดินหน้ากลยุทธ์ Low Carbon อย่างจริงจัง พร้อมมุ่งสู่ Net Zero ภายในปี 2050
📌โลกเดือด: วิกฤติเร่งด่วนที่ภาคธุรกิจต้องรับมือ
ภาวะโลกร้อนได้ยกระดับเป็น “ภาวะโลกเดือด” (Global Boiling) ซึ่งสะท้อนถึงความรุนแรงของวิกฤติสภาพภูมิอากาศที่เพิ่มขึ้นทุกวัน หนึ่งในเหตุสำคัญ คืออุตสาหกรรมก่อสร้าง โดยเฉพาะกระบวนการผลิตปูนซีเมนต์ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์คิดเป็น 7–8% ของการปล่อยทั่วโลก สถานการณ์นี้ผลักดันให้ประเทศต่าง ๆ ออกมาตรการคุมเข้ม เช่น CBAM ของสหภาพยุโรป และร่างกฎหมาย CCA ของสหรัฐฯ ที่เก็บภาษีคาร์บอนทั้งสินค้านำเข้าและภายในประเทศ ส่งผลกระทบโดยตรงต่ออุตสาหกรรมที่ปล่อยคาร์บอนสูง เช่น ปูนซีเมนต์ เหล็ก ปิโตรเคมี ผู้ประกอบการไทยจึงจำเป็นต้องเร่งปรับตัว เพื่อรักษาขีดความสามารถในการแข่งขัน และรองรับการเก็บภาษีคาร์บอนในอนาคต โดยสอดรับกับเป้าหมายของไทยในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 20–25% ภายในปี 2030 ท่ามกลางโลกที่กำลังร้อนแรง ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือและลงมือจริงจัง ก่อนที่ความร้อนนี้จะเกินกว่าจะรับมือไหว
📌SCG ปั้น ‘อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์และก่อสร้างไทย’ ให้พร้อมรับเกมคาร์บอนทั่วโลก
SCG พร้อมยกระดับอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์อาเซียนสู่ความยั่งยืน ด้วยการลงทุนด้านวิจัย พัฒนา และเทคโนโลยีการผลิตปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำบทบาทผู้นำระดับภูมิภาคในวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการเป็นเจ้าภาพร่วม INTERCEM Asia 2025 งานประชุมผู้ผลิตและผู้เกี่ยวข้องในเชนอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ระดับโลก แสดงถึงศักยภาพและความพร้อมในการผลักดันมาตรฐานใหม่สู่เวทีโลก
📌SCG โชว์นวัตกรรมลดคาร์บอนในงาน Intercem Asia 2025
🔹SCG LC3 Structural Cement – ปูนคาร์บอนต่ำ แข็งแรง ลดการปล่อย CO2 ได้มากยิ่งขึ้น
นวัตกรรมปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำสูตรต้นแบบจาก SCG ที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ได้มากถึง 38% แต่ยังคงความแข็งแรงทนทาน ใช้ก่อสร้างโครงสร้างอาคารได้จริง แถมยังใช้กับงานตกแต่งได้อย่างลงตัว ช่วยให้ทุกการสร้างบ้านและตึกเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
🔹SCG 3D Printing – พิมพ์ขึ้นรูปด้วยปูนคาร์บอนต่ำ ประหยัดเวลา ดีไซน์ล้ำ
เทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติด้วยปูนคาร์บอนต่ำและเรียงชั้นปูนอย่างแม่นยำ เทคโนโลยีนี้ช่วยให้สามารถสร้างโครงสร้างที่ซับซ้อนและทันสมัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุน ลดแรงงาน และลดของเสียจากการก่อสร้าง เหมาะสำหรับงานสถาปัตยกรรมล้ำสมัยและการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนในอนาคต
🔹TORA S-ONE จากตราเสือ – เครื่องพ่นฉาบอัจฉริยะ งานเร็ว ลดแรงคน
นวัตกรรมเครื่องพ่นฉาบปูนระบบดีเซลที่ตราเสือร่วมพัฒนากับคูโบต้า ที่ทำให้งานฉาบผนังเร็วขึ้นถึง 40% ใช้วัสดุอย่างคุ้มค่า ช่วยประหยัดทั้งเวลา แรงงาน และต้นทุน เหมาะสำหรับไซต์งานยุคใหม่ ที่ต้องการความเร็วและคุณภาพในเวลาเดียวกัน
🔹SCG International – โซลูชันขนส่งครบวงจร ลดคาร์บอนทุกขั้นตอน
บริการจัดการ Supply Chain ครบวงจร ตั้งแต่จัดหาวัตถุดิบจนถึงส่งมอบถึงมือลูกค้า โดยมุ่งเน้นการลดคาร์บอนในทุกขั้นตอน ช่วยให้คู่ค้าแข่งขันได้อย่างยั่งยืนในตลาดโลก
🔹Saraburi Sandbox – เมืองต้นแบบสีเขียวที่จับต้องได้
พื้นที่ทดลองจริงที่รวมเอานวัตกรรมสีเขียวของ SCG และการจับมือพันธมิตร มาใช้ในชีวิตจริง ตั้งแต่พลังงานสะอาด ระบบจัดการของเสีย จนถึงการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน เป็นแหล่งเรียนรู้ให้ทั้งธุรกิจ ชุมชน และเยาวชนเห็นว่า “เมืองคาร์บอนต่ำ” เป็นไปได้จริง
นอกจากนวัตกรรมผลิตภัณฑ์แล้ว SCG ยังมุ่งมั่นลงทุนในกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง SCG ลงทุนใช้พลังงานสะอาดอย่างแสงอาทิตย์กว่า 40% และเปลี่ยนมาใช้เชื้อเพลิงชีวมวล เช่น แกลบและฟางข้าว แทนถ่านหินกว่า 45% พร้อมนำลมร้อนที่เหลือจากการผลิตกลับมาใช้ใหม่ ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนในระยะยาว
คุณสุรชัย นิ่มละออ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจเอสซีจี ซีเมนต์แอนด์กรีนโซลูชันส์ กล่าวว่า
“เอสซีจี ตระหนักดีว่าการเปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำ ไม่ใช่เพียงความท้าทาย แต่เป็นโอกาสเชิงกลยุทธ์ในการยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันและก้าวสู่ความเป็นผู้นำในเวทีโลก การเป็นเจ้าภาพร่วม INTERCEM Asia 2025 เป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงศักยภาพ วิสัยทัศน์ และความมุ่งมั่นของเอสซีจีในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทยและอาเซียนให้เติบโตอย่างยั่งยืนและมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม”
ทันโลกกับ Trader KP 